หากพูดถึง สรรพคุณของ กัญชง (Hemp) หลาย ๆ คนคงคิดว่าคล้าย ๆ กับกัญชา เพราะเป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายกันจนแยกแทบไม่ออก เนื่องจากพืชสองชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดเดียวกัน อยู่ในวงศ์เดียวกัน คือ Cannabaceae แถมยังสกุลเดียวกันคือ Cannabis แต่ที่แตกต่างกันก็คือ กัญชง จะมีปริมาณสาร THC ซึ่งมีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งในกัญชงมีปริมาณน้อยกว่า แต่จะมีสาร CBD ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการทางร่างกายได้ดีกว่า อีกทั้งจุดประสงค์ในการใช้ประโยชน์ของพืชทั้งสองชนิดนี้ก็ค่อนข้างจะแตกต่างกัน นับตั้งแต่มนุษย์รู้จักการใช้พืชตระกูลนี้ มีการบันทึกประวัติศาสตร์ถึงการใช้ประโยชน์พบว่ามีการใช้กัญชงมากกว่ากัญชา โดยเฉพาะในยุคล่าอาณานิคม ยุคนักเดินเรือ มักจะใช้เส้นใยกัญชงมาทำเป็นเชือก และผ้าใบเรือ เพราะมีเหนียว แข็งแรงความทนทานเป็นมาก หรือแม้แต่ประเทศจีน ยุคราชวงศ์โจว ก็นำเส้นใยกัญชงมาผลิตเป็นเครื่องแต่งกาย เครื่องนุ่งห่ม และส่วนของเมล็ดยังเป็นธัญพืชที่นำมาทานกันทั่วโลกนานนับหลายพันปีเช่นกัน
ส่วนประเทศไทยในปัจจุบันตั้งแต่มีการปลดล็อกพืชกัญชง กัญชา ก็เริ่มนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในทางการแพทย์ ถึงแม้ว่ากัญชามักจะถูกนำไปใช้ทางการแพทย์มากกว่า แต่กัญชงก็ถือว่ายังเป็นที่ต้องการ เพราะมีความโดดเด่นตรงที่มีสาร CBD สูง ยังมีสารสำคัญอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์อีกหลายชนิด รวมไปถึงสามารถใช้ได้ทั้งทุกส่วนของต้นตั้งแต่รากไปถึงใบ จึงทำให้กลายเป็นที่นิยมในการเพาะปลูก โดยสรรพคุณ และประโยชน์ของกัญชงก็มีดังต่อไปนี้
ประโยชน์ สรรพคุณ กัญชง แบ่งได้ดังนี้
สรรพคุณของ กัญชง ทางด้านรักษาโรค
ตั้งแต่ในสมัยโบราณ ส่วนใหญ่มักจะใช้ส่วนของใบ และเมล็ดกัญชง มาให้รักษาบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น นำใบมาทำเป็นยาบำรุงโลหิต มาใช้เพื่อช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีความสดชื่น ช่วยให้นอนหลับสบาย หลับสนิท ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ รักษาบรรเทาอาการปวดศีรษะหรือไมเกรน ใช้รักษาโรคท้องร่วง โรคบิด และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด คลายกล้ามเนื้อ รักษาโรคเกาต์ และช่วยแก้กระหาย เป็นต้น ในส่วนของเมล็ดสดจะนำมาเป็นยาสลายนิ่ว โดยนำมาเคี้ยวสด ๆ ส่วนในปัจจุบันได้นำกัญชงมาผลิตยาหลายรูปแบบ สรรพคุณที่ได้มีดังนี้
สรรพคุณทางยา
- ลดบรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
- ใช้คลายเครียด ลดความกังวล นอนหลับได้ดีขึ้น
- ใช้เพื่อควบคุมอาการชัก โดยไม่มีความเป็นพิษส่งผลต่อระบบประสาท
- ใช้ในการลดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ
- ใช้รักษาโรคหลอดเลือด และหัวใจ
- แก้อาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่รับยาเคมีบำบัด ในการณีใช้ยารักษามาตรฐานแล้วไม่ได้ผล
- ช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการเบื่ออาหาร ผู้ที่น้ำหนักลดในผู้ผู้ป่วยโรค HIV (เอดส์) และโรคลมชักรุนแรงสองชนิด Lennox-Gastaut syndrome กับ Dravet syndrome
- บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง พร้อมกับรักษาอาการปวดจากโรคปลอกประสาทอักเสบ
- ใช้บรรเทาปวด และมีอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยจะใช้เมื่อการรักษามาตรฐานยังได้ผลไม่ดีเท่านั้น
- บรรเทาอาการลมบ้าหมู
- ลดอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ALS
- ช่วยบรรเทาอาการพาร์กินสัน
- ลดปัญหาผิวแห้ง และสิว
- ลดอาการโรคซึมเศร้า
- ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน
- บรรเทาอาการทางจิตเภท
- ลดอาการลงแดงจากสารเสพติดอื่น ๆ
- ช่วยบรรเทา และป้องกันโรคหัวใจ
ประโยชน์ของกัญชงทางด้านอาหาร
จากการศึกษาพบว่า น้ำมันในเมล็ดกัญชง มีสารอาหารมากมาย เช่น โอเมก้า 3, โอเมก้า 6, โอเมก้า 9, กรดไลโนเลอิก, กรดอัลฟ่า, และแกมมาไลโนเลนิก สารในกลุ่มวิตามิน ต่าง ๆ เมื่อนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารจึงมีประโยชน์ร่างกายมากมาย อาทิ การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งในร่างกายได้ โดยการใช้ประโยชน์จากน้ำมันเมล็ดกัญชงในอาหารมีลักษณะดังนี้
- ใช้ทำผลิตภัณฑ์เสริมทั้งแบบชนิดเม็ด แบบแคปซูล และแบบน้ำ
- ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้งเครื่องอัดแก๊ส เครื่องดื่มแต่งกลิ่นรส และเครื่องดื่มธัญชาติ
- เป็นส่วนผสมในอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น ขนม อาหารเพื่อสุขภาพ
เมล็ดนอกจากจะให้น้ำมันแล้ว ก็ยังมีโปรตีนในปริมาณที่สูงมากอีกด้วย ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทำผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น เนย ชีส เต้าหู้ โปรตีนเกษตร นม ไอศกรีม น้ำมันสลัด อาหารว่าง อาหารเสริม ฯลฯ หรือจะทำเป็นแป้งทดแทนถั่วเหลืองก็ยังได้แถมให้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคตอาจใช้เป็นทางเลือกในการบริโภคแทนถั่วเหลืองก็เป็นไปได้
สรรพคุณของกัญชง ในด้านเครื่องสำอาง
สำหรับกฎหมายในประเทศไทยการใช้สาร CBD ที่พบได้ในพืชกัญชง และกัญชาในเครื่องสำอางพร้อมใช้ทุกประเภทต้องมีสารตัวนี้ไม่เกิน 1.0% แต่มีข้อแม้ว่าห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับช่องปากหรือใช้บริเวณจุดซ่อนเร้น อีกทั้งต้องมีสาร THC ผสมไม่เกิน 0.2% หากเป็นเครื่องสำอางพร้อมใช้ประเภทน้ำมัน หรือ soft gelatin capsules ห้ามมีสาร THC ผสมเกิน 0.001% ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่มี CBD เป็นส่วนผสมในท้องตลาดก็มีมากมายให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็น ครีม โลชั่น สบู่ แชมพู ลิปบาล์ม รวมไปยาทาสมุนไพร เช่น ยาหม่อง เป็นต้น ซึ่งสาร CBD ในเครื่องสำอางก็มีประโยชน์ต่อผิวมากมายจนเป็นสินค้าขายดีในทั่วโลก โดยมีคุณสมบัติเด่น เช่น
- ใช้ต่อต้านอาการอักเสบของผิวหนัง
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูสดใส เต่งตึงขึ้น
- ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด พร้อมกับฟื้นบำรุงผิว
- ช่วยเพิ่มคอลลาเจนฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน สดใสมากขึ้น
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า และสร้างผิวใหม่
- ช่วยลดรอยแดง รอยดำให้ดูจางลง
- ช่วยบำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ใช้รักษาโรคผิวแห้งคัน และโรคสะเก็ดเงิน
สรรพคุณของ กัญชง และประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ
พืชกัญชงนอกจากจะมีสรรพคุณด้านเสริมสุขภาพ ใช้ในการรักษาบรรเทาอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะทำเป็นยา อาหารเสริม และเครื่องสำอางแล้ว ส่วนต่าง ๆ ยังนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีกมากมายด้วยเช่นกัน ดังนี้
เปลือกต้นกัญชง
เปลือกจากต้นกัญชงเป็นเส้นใยที่ให้คุณภาพสูง จึงมักนำไปใช้ทำเป็นเส้นด้าย และเชือกต่าง ๆ ยังใช้สำหรับการทอผ้า ทำเครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ อย่างในพิธีกรรมต่าง ๆ ก็มักจะใช้ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยจากกัญชงในพิธี เช่น การใช้ทำสายสิญจน์ในพิธีกรรมพอัวเน้งหรือการเข้าทรง ซึ่งเป็นงานประเพณีสำคัญของชาวม้ง ใช้เป็นรองเท้าของคนตายเพื่อเดินทางไปสู่สวรรค์ อย่างในประเทศญี่ปุ่นก็นำเส้นใยกัญชงซึ่งถือว่ามีความเป็นมงคล จึงนิยมนำมาตัดกิโมโน เพราะเป็นผ้าที่มีความทนทานนับร้อยปีเลยทีเดียว
ส่วนของต้นกัญชง
ในอดีตประเทศญี่ปุ่น ในจังหวัดฟูกูชิมะ มีการปลูกต้นกัญชงเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านกำจัดกัมมันตภาพรังสีให้สลายตัวจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ระเบิดจากคลื่นสึนามิ จนสารพิษซึมลงดินจนไม่สามารถทำการเกษตรได้ ส่วนเนื้อของลำต้นเมื่อปอกเปลือกออกแล้วยังนำมาผลิตเป็นกระดาษ เสื้อเกราะกันกระสุนคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา วัสดุหีบห่อ ฉนวนกันความร้อน ไบโอพลาสติก
แกนกลางของต้นกัญชงยังมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น น้ำหรือน้ำมันได้ดี หลาย ๆ ประเทศจึงนิยมนำไปผลิตเป็นพลังงานชีวมวลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถ่านไม้ แอลกอฮอล์ เอทานอล และเมทานอล เป็นต้น นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการการสร้าง ไม่ว่าจะเป็น อิฐ หรือใช้ผสมคอนกรีตสำหรับงานก่อสร้าง รวมไปถึงผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งอาคารและเฟอร์นิเจอร์ และส่วนประกอบรถยนต์อีกด้วย
เมล็ดจากต้นกัญชง
เมล็ดกัญชงนอกจากจำนำไปสกัดเอาน้ำมันมาใช้ในการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ และเครื่องสำอางได้แล้ว ยังนำไปเป็นอาหารนก หรือแม้กระทั่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงก็ยังได้
ใบกัญชง
ส่วนใบของกัญชงนอกจากจะใช้เป็นยารักษาโรค กับเครื่องสำอางแล้ว ยังสามารถนำมาผลิตเป็นชาเพื่อสุขภาพ ยังสามารถบดผงผสมกับอาหารอื่น ๆ เพื่อผลิตเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ หรือนำไปผลิตเป็นอาหารโดยตรง อาทิ เส้นพาสต้า คุกกี้ ขนมปัง ใช้หมักทำเบียร์ ไวน์ ทำน้ำจิ้มซอสสำหรับอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงการนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
รากกัญชง
ส่วนของรากกัญชงนอกจากมีสาร CBD ที่สูง ยังอุดมไปด้วย สารอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น สารฟริเดลีน, สารเพนต้าไซคลิก ไตรเทอร์พีน, และสารโคลีน เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วมีคุณสมบัติทางยาทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้ แก้อาการปวด ลดไข้ ใช้รักษาประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาว หรืออาการตกเลือด อาการเลือดออกจากช่องคลอดกะปริดกระปรอย รักษาอาการปวดข้อต่อต่าง ๆ และรักษาโรคเกาต์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ใช้เพื่อปรับความสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติได้ดียิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่า สรรพคุณของ กัญชง นั้นมีมากมายหลายอย่าง อีกทั้งยังใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนตั้งแต่รากไปถึงใบ ซึ่งแนวโน้มในอนาคตเชื่อว่าคงสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่านี้ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยเองก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปรับปรุงพันธุ์ให้กัญชงที่มีปริมาณ CBD สูง และสาร THC ให้ต่ำกว่า 1.0% ซึ่งในปัจจุบัน พบสายพันธุ์ที่มีปริมาณ CBD เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 5-15 % ได้แล้ว โดยมีเป้าหมายให้ได้พันธุ์ที่มีปริมาณ CBD 20% ภายในปี พ.ศ. 2570 หากใครคิดจะปลูกก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยในอนาคตพืชกัญชงของไทยอาจกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อเกษตรกรที่สามารถสร้างรายได้มากขึ้น และสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพสูงตามไปด้วย