ในกัญชา หรือกัญชง หนึ่งในสารที่พบมากที่สุดก็คือสาร CDB โดย ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ถือเป็นที่ยอมรับว่าสำคัญที่สุดสามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะมีสาร THC และสารออกฤทธิ์ และให้น้ำมันหอมละเหยอีกมากมายหลายชนิดที่มีสำคัญ แต่การรักษาโรคต่าง ๆ นั้นจะเน้นไปที่การใช้สาร CBD เสียเป็นส่วนใหญ่
สาร CBD คืออะไร ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ มีอะไรบ้าง
CBD ย่อมาจาก Cannabidiol ที่ได้มาจากการสกัดจากต้นกัญชา และกัญชง ผู้ที่ค้นพบสารนี้เป็นครั้งแรกของโลกก็คือ นักวิจัยชาวอิสราเอล ที่มีชื่อว่า ดร.ราฟาเอล เมคูลัม โดยเขาสามารถนำสารชนิดนี้ไปรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างได้ผล รวมไปถึงช่วยลดอักเสบให้กับส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยรักษาโรคหลอดเลือด และหัวใจ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ ต้นกัญชา และกัญชง จะถูกมองว่าเป็นสารเสพติด ที่สามารถบรรเทาการเจ็บป่วย หรือช่วยรักษาในบางโรคได้ โดยเฉพาะสาร THC ที่มีในกัญชามากถึง 12 % ที่ออกฤทธิ์ทำให้เคลิบเคลิ้ม เมื่อใช้เป็นเวลานานจะมีผลต่อระบบประสาท กรมอนามัยโลกได้จัดให้สาร THC อยู่ในประเภทสารเสพติดประเภทที่ 1 การใช้สารชนิดนี้จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น
แต่ทว่ามีการศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงพบว่ามีสารอีกตัวหนึ่งก็คือ CBD ที่ถือเป็นสิ่งพิเศษที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการแพทย์ทั่วโลก โดยในกัญชาจะมีสาร CBD นี้ประมาณ 0.30% และไม่จัดเป็นสารเสพติด เพราะไม่มีผลกับระบบประสาทเหมือน THC อีกทั้งมีสรรพคุณที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างด้วยกัน
แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการใช้ประโยชน์จากสาร CBD เพื่อรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องเป็นการสกัด กลั่นออกมาเสียก่อน เพราะหากใช้วิธีการสูบ หรือวิธีอื่น ๆ ที่นำเข้าร่างกายโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับแต่ THC มากเกินไป และแทบจะไม่ได้รับสาร CBD เลย
ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ที่ใช้ในการรักษาโรค
ประโยชน์ของสาร CBD ในด้านการรักษาโรคนั้นมีมากมายหลายอย่างโดยมีทั้งคุณสมบัติเด่น ๆ และช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวด – สาร CBD ถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมากในการช่วยต้านอาการอักเสบในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ โดยเฉพาะหากต้องผ่าตัดที่ต้องเจอความเจ็บปวดแบบสุด ๆ จากแผลที่เกิดขึ้น หากใช้สาร CBD นอกจากจะทำให้ความเจ็บปวดลดลง ไม่มีอาการอักเสบ แผลก็จะหายเร็วขึ้น
มีคุณสมบัติออกฤทธิ์เหมือนยาปฏิชีวนะ – มีรายงาน และผลทางการวิจัยพบว่า CBD มีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ หากเป็นแผล หรือผ่านการผ่าตัดมา สาร CBD จะมีส่วนช่วยรักษาโดยการทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย พร้อมกับซ่อมแซมร่างกายส่วนต่าง ๆ ที่บาดเจ็บ หรือได้รับความเสียหายให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว
มีคุณสมบัติช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น – ผู้ที่มีอายุที่มากขึ้น หรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอไม่แข็งแรง จะพบว่าตัวเองนั้นป่วยง่าย เจออะไรนิดหน่อยก็ไม่สบาย อาจจะเป็นเพราะภูมิคุ้มกันน้อยลง หรือมีไม่มากพอ การใช้สาร CBD จะไปช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันมีสูงมากขึ้น ร่างกายมีความแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย หากป่วยก็ฟื้นตัวหายป่วยได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น การนอนหลับพักผ่อนก็สนิทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการรักษาสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย
มีคุณสมบัติเป็นยาธรรมชาติ – สาร CBD ในพืชกัญชา หรือกัญชง ถือเป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้สร้างขึ้นในห้องทดลองเหมือนยาอื่น ๆ จึงไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ดังนั้นหากนำมาเป็นอาหารเสริม หรือส่วนประกอบของอาหารเพื่อสุขภาพจึงมีผลดีมีประโยชน์ต่อร่างกายหลาย ๆ ด้านอย่างน่ามหัศจรรย์
ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ทางด้านบรรเทาอาการต่าง ๆ
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง หากเป็นโรคมะเร็งก็จะช่วยลดอาการคลื่นไส้หลังการทำเคมีบำบัด
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู
- บรรเทาอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ช่วยบรรเทาอาการพาร์กินสัน
- ช่วยบรรเทาปัญหาการเกิดสิว และอาการผิวแห้ง
- ช่วยบรรเทาโรคซึมเศร้า
- สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ยังช่วยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
- ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน
- บรรเทาอาการทางจิตได้หลากหลายประเภท
- ช่วยบรรเทาอาการลงแดง อาการถอนยาจากสารเสพติด
- ช่วยป้องกัน และบรรเทาโรคหัวใจ
ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ด้านความงาม
สาร CBD ในต้นกัญชา กับในต้นกัญชงยังมีประโยชน์เป็นอย่างมากทางการแพทย์ด้านความงาม เพราะมีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบได้สูง และยังสามารถป้องผิวจากรังสี UV ที่มากับแสงแดด รวมไปถึงมลภาวะต่าง ๆ อีกด้วย สาร CBD ยังไปเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายจึงช่วยฟื้นฟูผิวให้สวยงามเรียบเนียน มีความชุ่มชื้น ผลัดผิวเสียออก กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอย ลดรอยดำรอยแดง ยังสามารถลดปัญหาสิวได้อีกด้วย ซึ่งสารตัวนี้ไม่ทำให้ผู้ใช้เกิดอาการดื้อยาแต่อย่างใด
จนทำให้ตอนนี้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ CBD จึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยมีการเปิดเผยจาก ดร.โจชัว ไซช์เนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยเครื่องสำอาง และคลินิกด้านผิวหนังจากโรงพยาบาล Mount Sinai นิวยอร์ก ที่ชี้ว่าน้ำมัน CBD จะมีสรรพคุณที่ให้ประโยชน์คล้ายกับน้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, และน้ำมันอัลมอนด์ ที่มีกรดไขมันธรรมชาติที่ดีต่อผิว จึงใช้สามารถใช้เป็นครีมบำรุงผิว ช่วยลดอาการผิวแห้งกร้าน หรือรักษาโรคผิวหนังแห้งอย่างรุนแรงได้อีกด้วย
โดยแบรนด์ต่าง ๆ ได้หยิบยกสรรพคุณของสารสกัดจากกัญชาตัวนี้มาโฆษณาผลิตภัณฑ์กันอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังนำเสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของสาร CBD ที่มีอย่างมากมาย โดยเฉพาะการต้านอักเสบในผิว ประกอบกับมีนักแสดงฮอลลีวูดหลายคนอย่างเช่น กวินเน็ธ พัลโทรว์, คิม คาเดเชียน, วูปี้ โกลด์เบิร์ก, เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสาร CBD เพื่อการรักษาสิว บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น หรือพกติดตัวไว้ทาบรรเทาอาการปวดเมื่อยขณะเดินทาง จึงทำให้กระแสของสารตัวนี้แรงขึ้นไปอีก
ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ด้านความงามในประเทศไทยนั้นก็มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ครีม โลชั่น สบู่ แชมพู ลิปบาล์ม รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ยาหม่อง ยานวดต่าง ๆ เป็นต้น รวมไปถึงการผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ซึ่งในประเทศไทยนั้นได้มีการประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขให้ สารสกัด CBD ที่มีส่วนผสมของ THC ได้ไม่เกิน 0.2% ไม่เป็นยาเสพติด จึงทำให้วงการแพทย์ใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นการศึกษาวิจัยเพื่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ เช่น ยา อาหาร สมุนไพร และเครื่องสำอาง แต่อย่างไรก็ตามสารสกัด CBD ที่จะนำมาใช้นั้นต้องสกัดมาจากกัญชงหรือกัญชาที่ปลูก และผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ถ้าหากนำเข้าจากต่างประเทศ ยังถูกจัดให้เป็นยาเสพติดให้โทษอยู่
อย่างไรก็ตามหากใครต้องการใช้ ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ไม่ว่าจะใช้บรรเทาอาการ หรือรักษาโรคต่าง ๆ ไม่ควรหามาใช้เอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเท่านั้น เพื่อที่จะได้รับการแนะนำอย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นปริมาณ ชนิดที่ใช้ และวิธีใช้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงจากการใช้ผิดวิธี
ทั้งหมดนี้คือ ประโยชน์ของสาร CBD ทางการแพทย์ ที่สามารถใช้ทั้งรักษาโรค และด้านความงาม เพราะเป็นสารที่บริสุทธิ์ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท (ยกเว้นมีส่วนผสมของสาร THC ) แต่อย่างไรก็ตามการใช้ประโยชน์สูงสุดยังจำเป็นให้แพทย์ทำการวิจัย ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ในพืชวงศ์กัญชานี้เพื่อมารักษาโรคต่าง ๆ ต่อไป และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้คงจะมีการค้นพบสรรพคุณต่าง ๆ อีกมากมาย ที่สามารถต่อยอดในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยรักษาบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น